ศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน

ถอดบทเรียน องค์ความรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน   

บ้านซำตารมย์  หมู่ที่  ๗  ตำบลตระกาจ   อำเภอกันทรลักษ์   จังหวัดศรีสะเกษ

 

                                                                                                               

คำนำ

                    รายงานการถอดบทเรียนองค์ความรู้ (สรุปบทเรียน) บ้านซำตารมย์ หมู่ที่ ๗  ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ฉบับนี้ ผู้จัดทำได้สรุปบทเรียนกองทุนแม่ของแผ่นดินที่มีการพัฒนา หมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินไปสู่ศูนย์เรียนรู้หมู่บ้าน/ชุมชน กองทุนแม่ของแผ่นดิน บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้ศึกษาจากสภาพข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน การดำเนินงานกองทุนแม่ ของแผ่นดินจากระยะเริ่มต้นถึงปัจจุบันสู่การพัฒนา   กองทุนแม่ของแผ่นดินที่ยั่งยืนเพื่อเป็นหมู่บ้าน ต้นแบบในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ  เป็นศูนย์การเรียนรู้ของหมู่บ้านชุมชน กองทุนแม่ของแผ่นดินใน พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

                                     ข้อมูลพื้นฐานหมู่บ้าน

๑.ประวัติความเป็นมา

         บ้านซำตารมย์  หมู่ที่  ๗  ตำบลตระกาจ  อำเภอกันทรลักษ์  จังหวัดศรีสะเกษ  เริ่มแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕  ได้มีชาวบ้านอพยพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี รวมอยู่กับบ้านทุ่งกอก  ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๒๘ ได้แยกมาจัดตั้งหมู่บ้านใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “บ้านซำตารมย์” คำว่า ซำ หมายถึง น้ำซึมซับที่มีอยู่ตลอดปี ตารมย์ เป็นชื่อของบุคคลผู้หนึ่งที่ชาวบ้านได้ให้ความเคารพนับถือจึงใช้ชื่อดังกล่าวรวมกันมาเป็นชื่อหมู่บ้าน

จำนวนครัวเรือน      

มีครัวเรือนจำนวนทั้งสิ้น ๑๑๓ ครัวเรือน  มีประชากรจำนวนทั้งสิ้น ๔๗๐ คน 

แยกเป็นชายจำนวน ๒๔๘ คน แยกเป็นหญิงจำนวน ๒๒๒  คน

          สภาพภูมิประเทศ

               สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านซำตารมย์ หมู่ที่ ๗ ตำบลตระกาจ เป็นดินร่วนสีแดงอันเกิดจากหินภูเขาไฟ ซึ่งเดิมสันนิษฐานว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นเขตภูเขาไฟเก่าที่สงบมานานแล้ว ดังนั้น ดินในบริเวณนี้จึงเป็นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชไร่ และพืชสวนทางเศรษฐกิจ เช่น เงาะ ทุเรียน ลองกอง ลำใย สะตอ มังคุด ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา เป็นต้น ซึ่งพืชผลทางการเกษตรเหล่านี้สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรประมาณปีละไม่ต่ากว่า ๒๐๐ ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแหล่งน้ำทางการเกษตร และเป็นเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยตามาย เป็นแหล่งน้ำที่มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี เป็นท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นประมงน้ำจืดที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่หมู่บ้านได้อย่างมหาศาล

          อาณาเขต

             - ทิศเหนือ ติดต่อกับบ้านตูมน้อย หมู่ที่ ๑ ตำบลภูเงิน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

             - ทิศใต้ ติดต่อกับบ้านศรีอุดม หมู่ที่ ๕ ตำบลจานใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

             - ทิศตะวันออก  ติดต่อกับบ้านทุ่งกอก หมู่ที่ ๓ ตำบลตระกาจ และบ้านม่วง หมู่ที่ ๒ ตำบล
ตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

      - ทิศตะวันตก ติดต่อกับอ่างเก็บน้ำห้วยตามาย และบ้านโนนจิก หมู่ที่ ๖ ตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

ด้านเศรษฐกิจ

               ครัวเรือนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพทางการเกษตร มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตผลต่อปีเป็นจำนวนมาก รายได้เฉลี่ย ๗๖,๓๕๒ บาท/คน/ปี (จปฐ. ปี ๒๕๕๕)

              มีดินที่อุดมสมบูรณ์ สามารถปลูกไม้ผล คือ เงาะ ทุเรียน ลองกอง มะขามหวาน ฝรั่ง ยางพาราและพืชไร่อื่นๆ ตามความถนัดของประชาชน

              มีกลุ่ม/องค์และกองทุนที่หลากหลาย คือ 

             ๑. กองทุนแม่ของแผ่นดิน                              จำนวนเงินทั้งสิ้น            ๙๐,๐๐๐   บาท

             ๒. เงินกองทนหมู่บ้านม                                จำนวนเงินทั้งสิ้น        ๒,๕๐๐,๐๐๐   บาท

             ๓. กองทุนกลุ่มไม้ผล                                   จำนวนเงินทั้งสิ้น           ๑๘๐,๐๐๐   บาท

             ๔. กองทุนสตรี                                         จำนวนเงินทั้งสิ้น           ๒๐๐,๐๐๐   บาท

             ๕ .กลุ่มท่องเที่ยว                                      จำนวนเงินทั้งสิ้น           ๒๐๐,๐๐๐   บาท

             ๖. กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกระเทียมโทนดองน้ำผึ้ง     จำนวนเงินทั้งสิ้น           ๒๐๐,๐๐๐   บาท

             ๗. กลุ่มปุ๋ยหมักชีวภาพ                                จำนวนเงินทั้งสิ้น           ๑๐๐,๐๐๐   บาท

            ๘. กลุ่มฌาปณกิจสงเคราะห์                          จำนวนเงินทั้งสิ้น             ๑๘,๐๐๐   บาท 

                                                                           รวมเป็นเงินทั้งสิ้น    ๒,๓๘๐,๐๐๐   บาท

             มีเส้นทางคมนาคม ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๔ เป็นเส้นทางขนส่งผลผลิตไปยังตลาดใหญ่ๆ

ได้โดยสะดวก

      ด้านสังคม สาธารณสุข การศึกษา ศาสนา ศิลปะ ประเพณี และวัฒนธรรม

              บ้านซำตารมย์ หมู่ที่ ๗ ตำบลตระกาจ ส่วนใหญ่อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากจังหวัดอุบลราชธานี จึงทำให้มีสภาพสังคม ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่คล้ายคลึงกันมาก จึงไม่มีปัญหาในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา สังคม ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรม ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่พูดภาษาถิ่นอีสาน

          บ้านซำตารมย์ หมู่ที่ ๗ ตำบลตระกาจ มีวัดประจำหมู่บ้าน ๑ แห่ง ได้แก่ วัดป่าซำตารมย์ (สาขา
วัดหนองป่าพง) โดยมีพระอาจารย์สมพร  ปญฺญาวํโส เป็นเจ้าอาวาส มีโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๔ จำนวน ๑ แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านศรีอุดมซำตารมย์ ในปัจจุบันมีนายจำเนียร  บุญทน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคก ทำหน้าที่บริการด้านสาธารณสุขในพื้นที่บริการของบ้านซำตารมย์ หมู่ที่ ๗ ตำบลตระกาจ โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน (อสม.) ประจำหมู่บ้านเป็นผู้ขับเคลื่อน 

ด้านการเมืองการปกครอง

                บ้านซำตารมย์ หมู่ที่ ๗ ตำบลตระกาจ มีนางสายชล  พุฒตาลดง เป็นผู้นำหมู่บ้านในตำแหน่งกำนันตำบลตระกาจ  นอกจากนี้บ้านซำตารมย์ยังได้มีการแบ่งพื้นที่การปกครองหมู่บ้านออกเป็น ๔ คุ้ม ได้แก่ คุ้มเหนือ มีนายทศพล  สุวะจันทร์ เป็นหัวหน้าคุ้ม คุ้มใต้ มีนายจำเนียร  บุญทน เป็นหัวหน้าคุ้ม คุ้มตะวันออก มีนางอำพร  แก้วคำ เป็นหัวหน้าคุ้ม และคุ้มตะวันตก มีนายวิเชียร  ร่วมรักษ์ เป็นหัวหน้าคุ้ม

ความเป็นมาของกองทุนแม่ของแผ่นดิน

๑.ประวัติกองทุนแม่ของแผ่นดิน บ้านซำตารมย์  หมู่ที่  ๗  ตำบลตระกาจ

        บ้านซำตารมย์   หมู่ที่  ๗  ตำบลตระกาจ  อำเภอกันทรลักษ์  จังหวัดศรีสะเกษ เป็นหนึ่งในจำนวน

ทั้งหมด  ๑๒  หมู่บ้านของตำบลตระกาจเป็นหมู่บ้านมีผู้นำที่มีความเข้มแข็ง สามัคคี มีกิจกรรมที่ดำเนินการเป็นรูปธรรม มีกฎระเบียบในเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดที่ชัดเจน มีการรวมกลุ่มกันหลากหลายมีการจัดเวรยามหมู่บ้านและ มีการประชุมอย่างสม่ำเสมอ มีกิจกรรมป้องกันยาเสพติด ฯลฯ  ซึ่งทั้งหมดนี้เข้าหลักเกณฑ์การพิจารณาเสนอชื่อเข้ารับเงินขวัญถุงพระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดิน และในปี พ.ศ.๒๕๔๙ บ้านซำตารมย์จึงได้รับการเสนอชื่อใน ขณะนั้นมีนายวิเชียร  ร่วมรักษ์  ดำรงตำแหน่งกำนันตำบลตระกาจ

๒.โครงสร้างคณะกรรมการ

           การบริหารจัดการกองทุนแม่ของแผ่นดิน การจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีการจัดตั้งคณะกรรมการและทุกคนทำตามหน้าที่ของตนเองทุกคน บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดินด้านการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในหมู่บ้านและประชาชนโดยทั่วไปมีความศรัทธากองทุนแม่ของแผ่นดิน โดยมีการประชาสัมพันธ์ด้วยการปฏิบัติเป็นตัวอย่างและเชิญชวนประชาชนให้เกิดความศรัทธาและสมัครเป็นสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดิน บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการด้านการดูแลครัวเรือนสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดินตามที่ได้รับมอบหมายมีการติดตามดูแลสมาชิกเป็นประจำทุกเดือน คณะกรรมการประกอบด้วย

            ๑. นางสมคิด  ร่วมรักษ์                         ประธาน

            ๒. นางอำพร   แก้วคำ                          รองประธาน

            ๓. นางสมจิตร   สุวะจันทร์                     รองประธาน

            ๔. นางรุ่งนภา    คำฟอย                        เลขานุการ

            ๕. นางพุฒชาติ    กฐินเทศ                      เหรัญญิกเหรัญญิก

            ๖. นางทิพย์วิภา   โพธิ์ชัย                        ฝ่ายบัญชี

            ๗. นางพิสมัย    เบิกบาน                         ฝ่ายวิชาการ

            ๘. นางจันกร    ชุ่มชื่น                            ฝ่ายทะเบียนสมาชิก

           ๙. นางกัลยา   จันทร์แก้ว                         ฝ่ายปฏิคม

           ๑๐. นางหนูเพียร    อนุเคน                       ฝ่ายประสานงาน

           ๑๑. นางสำเนียง   อรจุล                           ฝ่ายกิจกรรมทูบีนัมเบอร์วัน

           ๑๒. นางอรวรรณ    ใจใหญ่                        ฝ่ายส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง

๓.  กฎระเบียบหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน

       ระเบียบบริหารจัดการกองทุนแม่ของแผ่นดินที่เป็นของหมู่บ้าน มีระเบียบที่เป็นลายลักษณ์อักษรและถือปฏิบัติร่วมกันอย่างเคร่งครัด  ดังนี้

๑.)    สมาชิกในหมู่บ้านเป็นสมาชิกด้วยความสมัครใจ และเป็นเอกภาพ

๒.) สมาชิกทุกคนมีความเสมอภาคและเท่าเทียมในการแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะในการมีส่วนร่วม   

๓.)สมาชิกทุกคนมีวัตถุประสงค์ เห็นพร้อมกันว่าจะสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในคราวจำเป็นฉุกเฉิน เกิดจ็บ ตาย และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือในคาวเดือดร้อน                        

๔.) เงินกองทุนแม่ไม่สนับสนุนช่วยเหลือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการพนัน แต่ว่าขึ้นอยู่กับดุลพินิจขิงคระกรรมการและสมาชิก

          ๕.) กองทุนแม่มีการสนับสนุนส่งเสริมช่วยเหลือในการประกอบอาชีพและเป็นทุนการศึกษาแก่บุตรสมาชิกที่บากจนแต่เรียนดีในวงเงินไม่เกินรายละ ๓.๐๐๐    บาท

           ๖.) สมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดินทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อบังคบและมติของกลุ่มโดยเคร่งครัด

            ๗.) สมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดินทุกคนต้องมีการระเมทุน และออมเพื่อให้กองทุนเข้มแข็ง

            

กฎหลัก ของชุมชนเข้มแข็ง บ้านซำตารมย์ 

๑.)    สมาชิกร่วมประชุมกันเป็นนิตย์

๒.) สมาชิกหมั่นเริ่มประชุมและเลิกประชุมพร้อมเพรียงกันทำกิจกรรมที่พึงกระทำโดยพร้อมเพรียงกัน

๓.)    สมาชิกยอมรับมติส่วนใหญ่ของที่ประชุมในการแก้ไขปัญหา

๔.)    สมาชิกให้การยอมรับและเคารพผู้อาวุโส

๕.)    สมาชิกให้การสงเคราะห์และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม เช่นเด็ก  สตรี คนชรา คนพิการ และคนที่ยากจนกว่า

๖.)    สมาชิกส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม

๗.)    สมาชิกช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา  

                      

๔. การดำเนินกิจกรรมและการบริหารเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน

       หมู่บ้านนี้ได้รับพระราชทานเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน

             ครั้ง ๑ ได้รับพระราชทานเมื่อปี ๒๕๔๙    จำนวน ๘,๐๐๐ บาท

            ครั้งที่ ๒ เมื่อปี ๒๕๕๑          จำนวน   ๘,๐๐๐ บาท

            ครั้งที ๓เมื่อปี๒๕๕๔           จำนวน ๒๔,๐๐๐ บาท

             รวม ๓ ครั้ง                          จำนวน ๔๐,๐๐๐ บาท

- หมู่บ้านมีการสมทบทุน (ทุนศรัทธา) และมีการจัดกิจกรรมเพื่อสมทบทุนทางปัญญา เป็นเงินจำนวน

๑๐,๐๐๐  บาท

          - ปัจจุบันหมู่บ้านนี้มีเงินกองทุนแม่ของแผ่นดินทั้งสิน ๙๐,๐๐๐ บาท (รวมเงินพระราชทานและเงิน

สมทบ)           

          -  การจัดทำบัญชีในการรับ-จ่ายเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีการจัดทำบัญชีถูกต้องตามหลักบัญชีและเป็นปัจจุบัน

          -  การสมทบเงินทุนด้วยวิธีแห่งศรัทธา (การบริจาค) สมาชิกร่วมบริจาคในวันแรกเข้าและบริจาคเป็นรายเดือนหรือรายปีหรือตามที่เห็นร่วมกันเป็นประจำสม่ำเสมอขึ้นอยู่กับโอกาส

          -  การสมทบเงินด้วยวิธีแห่งปัญญา (เช่น การจัดงานกิจกรรม การขอรับการสนับสนุนจากกองทุนอื่นๆ จากท้องถิ่น หน่วยงานอิสระ โครงการของรัฐ) มีการสนับสนุนปีละ ๓-๔ ครั้ง        

          -  กิจกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินในการให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด (เช่น ประชุม อบรม จัดกิจกรรม) มีการจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกเดือน

          -  กิจกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินเพื่อเด็กและเยาวชน และกลุ่มเสี่ยง (เช่น กิจกรรมเกี่ยวกับการออกกำลังกาย การส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์) มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวปีละ ๓-๕ ครั้ง

          -  การณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เห็นโทษภัยของยาเสพติด (เช่น เดินพาเหรด จัดป้ายแจ้งเตือน) มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวปีละ ๓-๕ ครั้ง

          - การค้นหามีการสำรวจผู้เสพยาเสพติด มีการค้นหาและสำรวจผู้เสพเพื่อบำบัดแก้ไขทุกเดือน

          -  กองทุนแม่ของแผ่นดินได้ให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจผู้เสพที่กลับตัวให้ได้รับการบำบัดรักษาและเตรียมความพร้อมชุมชครอบครัวเพื่อให้โอกาสคนกลุ่มนี้กลับเข้าสู่ชุมชน (เพื่อลดความเสี่ยงที่จะกลับไปมีพฤติกรรมเช่นเดิม)

          -  มีการส่งเสริมอาชีพเพิ่มทักษะทางอาชีพหรือหางานให้ทำสำหรับกลุ่มเสี่ยง ผู้เสพ หรือผู้ค้าที่กลับตัว และผ่านการบำบัดแล้ว มีการเพิ่มทักษะการจ้างงานสำหรับผู้เสพเป็นประจำ

        - หมู่บ้านนี้ได้รับพระราชทานเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน ๑ ครั้ง โดยได้รับพระราชทานเมื่อปี ๒๕๔๙ จำนวน ๘,๐๐๐ บาท ครั้งที่ ๒ เมื่อปี ๒๕๕๑ จำนวน ๘,๐๐๐ บาท และครั้งที่ ๓ เมื่อปี ๒๕๕๔ จำนวน ๒๔,๐๐๐ บาท รวม ๔ ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น ๔๐,๐๐๐ บาท

          - หมู่บ้านมีการสมทบทุน (ทุนศรัทธา) และมีการจัดกิจกรรมเพื่อสมทบทุนทางปัญญา เป็นเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท

          -  ปัจจุบันหมู่บ้านนี้มีเงินกองทุนแม่ของแผ่นดินทั้งสิน ๙๐,๐๐๐ บาท (รวมเงินพระราชทานและเงินสมทบ)

- การเก็บรักษาเงินกองทุนแม่ของแผ่นดินได้มีการฝากไว้กับบัญชีธนาคาร กรุงไทย (จำกัด) สาขากันทรลักษ์ ชื่อบัญชีกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านซำตารมย์ เลขที่บัญชี ๓๑๒๐๑๐๕๖๒๗ ยอดเงินฝาก ณ วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๕มีจำนวนเงินในบัญชีทั้งสิ้น ๕๓,๘๘๖ บาท ผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินกองทุน จำนวน ๓ คน ได้แก่

                   ๑) นางสมคิด  ร่วมรักษ์

                   ๒) นางรุ่งนภา  คำฝอย

                   ๓) นางพุฒชาติ  กฐินเทศ

           กองทุนแม่ของแผ่นดินได้ช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินโครงการกิจกรรมเพื่อสมาชิกและชุมชน ดังนี้

                   ๑) สนับสนุนอาหารแห้งให้แก่ทหารไทยตามแนวชายแดน

                   ๒) สงเคราะห์อาชีพ

                   ๓) สมทบทุนแก่เด็ก คนชรา ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส

           แผนปฏิบัติการกองทุนแม่ของแผ่นดินที่ได้ดำเนินการมาแล้ว

                   ๑) จัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ      

                   ๒) จัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

                   ๓) ตรวจสุขภาพกองทุนแม่ของแผ่นดินทุกเดือน

                   ๔) สมทบทุนแก่เด็ก คนชรา ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส

                   ๕) ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติแม่ดีเด่น

                   ๖) จัดอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน

ผลการตรวจสุขภาพกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านซำตารมย์ หมู่ที่ ๗ ตำบลตระกาจ อยู่ในระดับ A

เป็นศูนย์การเรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นในระดับระดับจังหวัด จังหวัดรีสะเกษ ประจำปี ๒๕๕๕

๕. ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จ

       ๑. ผู้นำชุมชน คนในชุมชน/หมู่บ้าน ร่วมมือ ร่วมใจ สามัคคี ในการดำเนินกิจกรรม

       ๒.คนในให้ความสำคัญสำหรับเงินกองทุน แม่ของแผ่นดิน

       ๓. เศรษฐกิจของคนภายในชุมชนดี มีความพร้อม

       ๔. ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนในการดำเนินกิจกรรม

๖. การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทุนแม่ของแผ่นดิน

       ๑. การเป็นแหล่งศึกษาดูงานขององค์กรหมู่บ้านอื่นๆ หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินหรือหมู่บ้านที่

เตรียมพร้อมจะเป็นหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน

  ๒.การเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับกองทุนแม่ของแผ่นดินของหมู่บ้านอื่นๆ มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปรึกษาหารือ ให้ความร่วมมือ หรือทำกิจกรรมร่วมกันมีการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับกองทุนแม่ของแผ่นดินของหมู่บ้านอื่น

        ๓) วิทยากรกระบวนการกองทุนแม่ของแผ่นดินที่เป็นคนในชุมชน มีคนในชุมชนเป็นวิทยากร และได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทของวิทยากรอย่างเต็มที่

      ๔) การทบทวน สรุปบทเรียน และพัฒนาการทำงานของหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีการทบทวนวิเคราะห์สถานการณ์กิจกรรมที่เกิดขึ้นตลอดปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ

                                   ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ

๗.ปัญหา/อุปสรรค

       ๑. การเข้าร่วมประชุมของสมาชิกกลุ่มทุนแม่จะไม่ครบจำนวนเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน จึงไม่ค่อยมีเวลา

        ๒. ความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีน้อย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังขาด ความเข้าใจและให้ความสำคัญในกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมกองทุนแม่ ของแผ่นดินน้อยมาก

๘. ข้อเสนอแนะ

        ๑. หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ประชาชนควรให้ความสำคัญกับกองทุนแม่ของแผ่นดินในพื้นที่ให้มากกว่าเดิม

        ๒. ควรสนับสนุนงบประมาณในการสร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินระดับอำเภอ ระดับจังหวัดเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างยั่งยืน

        ๓. ขยายกองทุนแม่ของแผ่นดินให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน

        ๔. สนับสนุน ส่งเสริม กองทุนแม่ของแผ่นดินให้เกิดความยั่งยืน